การเรียนการสอน มันก็ต้องเปลี่ยนไปตายุคสมัยด้วย จะให้ยุคนี้ ยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามาทุกอย่าง จะให้กลับไปสอนเด็กนักเรียน ให้เหมือนกับเด็กเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว มันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคงไม่มีเด็กคนไหนรับได้แน่นอน ถ้าครูคนไหน ที่ยังใช้วิธีการแบบนี้อยู่

นานวันเข้า เด็กก็จะยิ่งเรียน เหมือนยิ่งโง่ลงกว่าเดิม ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข สิ่งสำคัญที่สุด อยู่ที่คนเป็นครูอันดับแรกเลย จะต้องเข้าใจปัญหาของเด็กก่อน ไม่งั้นก็จะแก้ไขไม่ถูกจุด

การเรียนแบบไหนบ้าง ที่ทำให้เด็กเรียนแล้วไม่ได้ผล เรียนไปเหมือนเสียเวลาเปล่า

-ไม่มีความรู้สึกอยากจะเรียน นี่เป็นความรู้สึกของเด็กหลายๆ คนที่เวลาไปเรียนแล้ว ไม่มีความรู้สึกอยากจะเรียน เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม เรียนไปเพื่ออะไร ทำให้การเรียนของแด็ที่คิดแบบนี้ ไม่ดีเอาซะเลย และยิ่งเรียน ก็เหมือนเสียเวลาเปล่า ถ้าคนที่เป็นครู หรือว่าพ่อแม่ ไม่รู้จักและเข้าใจเด็กที่มีความคิดแบบนี้ นานวันเข้า เด็กก็จะยิ่งอาการหนัก ต้องกาทางปรับเปลี่ยนนิสัยเขาให้ได้

-บังคับให้เรียน การเรียนที่เป็นแบบยัดเยียด โดยที่เด็กบางคนไม่มีความสนในวิชาเหล่านั้น มันก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม ทำให้ผลการเรียนในวิชานั้น เด็กทำได้ไม่ดี เพราะมมีความอยากรู้อยากเรียน ไม่มีแรงบันดาลใจในการเรียน และเมื่อถึงเวลาเรียนวิชาเหล่านี้เมื่อไหร่ ก็จะรู้สึกไม่อยากจะเรียนทันที ถ้าไม่มีการปรับปรุงตรงจุดนี้ ยังไงเด็กก็ไม่มีวันพัฒนาไปในทางที่ดีแน่นอน

-สอนให้ท่องจำอย่างเดียว วิชาที่เราเห็นได้ชัดมากที่สุด นั่นก็คือภาษาอังกฤษ ที่เรียนกันมาตั้งแต่อนุบาง จนถึงระดับปริญญา แต่พอจบออกมาก็ไม่สามารถพูดได้อยู่ดี

เพราะมัวแต่สอนให้ท่องแกรมม่าอย่างเดียว ถ้านับเวลาในการเรียน มันก็เป็นเวลาหลายสิบปีเหมือนกัน

จะเห็นได้ชัดเลยว่า มันเป็นการเรียนที่เสียเวลามาก ถ้าไม่ปรับปรุงตรงจุดนี้ เด็กเรียบนไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ทำให้เด็กเก่งขึ้นแน่นอน หรือวิชาอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ถ้าไม่รู้จักสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ หรือเอามาประยุกต์ใช้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรในการเรียนเลย ต้องสอนให้รู้จักวิเคราะห์ด้วย จึงจะได้ผลมากที่สุด

-เรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ คนที่เป็นครูหรือผู้ปกครอง ที่ชอบยัดเยียดวิชาต่างๆ ให้กับเด็กเรียนโดยที่เด็ก ไม่มีความสนใจหรืออยากจะเรียนเลย แบบนี้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแน่นอน อย่างเช่นนการไปเรียนพิเศษในวิชาที่ตัวเองไม่ชอบ พอเด็กไปเรียน เขาก็ไม่สนใจเรียนอยู่ดี

ต้องหาให้เจอเสียก่อน ว่าเด็กชอบอะไร แล้วสนับสนุนตรงจุดนั้นจะดีกว่า จะทำให้เด็กเรียนดีมากขึ้นด้วย แต่ถ้ายังหาไม่เจอว่าเด็กชอบอะไร มันก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ต้องถามความสนใจ หรือสังเกตเด็กว่า เขาชอบอะไร แล้วก็สนับสนุนตรงจุดนั้นเลย

ถ้ายังไม่มีการปรับวิธีการเรียนการสอน เด็กเคยเป็นอย่างไร ก็จะเป้นอย่างนั้นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ต่อให้เรียนไปจนแก่ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เป็นการเรียนที่เสียเวลาเปล่า จบมาก็ทำงานไม่เป็นเหมือนเดิม