เทคโนโลยีสมัยนี้ ต้องถือว่าถ้าวเข้ามาสู่จุดสูงสุด เราจะเห็นทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือว่าผู้ใหญ่ ต่างหันมาใชข้เทคโนโลยีกันมากขึ้น ทั้งการใช้เพื่อการสื่อสาร เพื่อการทำงาน และเพ่อความบันเทิง และสื่อที่คนนิยมกันมากที่สุดก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ หรือว่า โซเชียลมีเดย

ที่มันเป็นเหมือนกับดาบสองคมเลยก็ว่าได้ มีทั้งดีและไม่ดี และเด็กยุคนี้ ก็ติดโซเชียลกันมาก จนแทบจะแยกไม่ออก อย่างเช่น เฟสบ๊ค ยูทูบ ทวิตเตอร์ เป็นต้น

เมื่อเด็ก ไปให้ความสำคัญกับโซเชียลมากขึ้น สิ่งที่ตามอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุด นั่นก็คือ ผลการเรียน และปัญหาความรักในวัยเรียน หรือหนักที่สุดก็คือการท้องในวัยเรียนที่เราเห็นเยอะมากขึ้น เพราะโซเชียล มันทำให้คนเข้าถึงกันได้ง่าย เด็กวัยรุ่นที่กำลังเรียน และอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากลอง ก็เกิดความสนใจอย่างยิ่ง ที่ได้คุยกับเพศตรงข้าม

และผลที่ตามมานั่นก็คือปัญหาการท้องในวัยเรียน และอีกอย่างที่เห็นมากที่สุด ที่เห็นเด็กในวัยเรียน ทำกัน นั่นก็คือ การโชว์วาบหวิวทางโซเชียล ทั้งๆ ที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ สาเหตุที่ทำให้เด็กหลายคน เลือกที่จะทำแบบนี้ เพราะได้รับความสนใจ จากคนในโซเชียลนั่นเอง หรือไม่ก็ได้เงินด้วย ทำให้เด็กไม่มีเวลาสนใจ กับการเรียนการสอน

แต่กลับมาให้ความสนใจ กับเรื่องเหล่านี้ในโซเชียลมากกว่า ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็มีให้เราเห็นในข่าว ไม่เว้นแต่ละวัน เป็นปัญหาที่ควบคุมได้ยากมาก เพราะเด็กทุคน ก็ล้วนแต่ใช้สมาร์ทโฟนกันทั้งนั้น สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ หรือคนเป็นครู สามารถจะทำได้ นั่นก็คือการเตือนสติ การให้แง่คิด กับเด็กนักเรียน เพราะเราไม่สามารถไปห้าม ไม่ให้เด็กเล่นได้อย่างแน่นอน

แต่ควรจะสอน ให้เห็นถึง พิษภัยของโซเชียลต่าง ๆ ที่มีให้เห็น และมันส่งผลกับตัวเด็กอย่างไร ถ้าไปทำสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ถ้าสามารถ สอนให้เด็กเข้าใจได้เช่นนี้ การใช้โซเชียยลมีเดีย ของเด็ก มันก็จะไม่ส่งผลเสียอย่างใด แต่จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ที่จะทำให้เด็กเรียนได้ดีขึ้น หากทำให้เด็กแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ออกจากกันได้ และไม่ใช่การห้ามเล่น

เมื่อโซเชียลมีเดีย มันมีประโยชน์มาก มันก็มีโทษได้เหมือนกัน และเด็กส่วนใหญ่ ก็ไม่สามารถที่จะแยกแยะ สิ่งเหล่านี้ได้ว่ามันดี หรือไม่ดีอย่างไร

เพราะความคิดของเด็ก ที่อยู่ในวัยเรียนนั้น จะมุ่งเน้นเรื่อง ที่มันทำแล้วสนุกอย่างเดียว ไม่ได้สนใจอะไรเลย บางคนก็ติดเกมส์ จนไม่สนใจในการเรียน หรือแม้แต่กระทั่งการโดดเรียน เพื่อมาเล่นเกมส์ ก็มีให้เห็นเหมือนกัน

สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ หรือว่าคนเป็นครู จะสามารถช่วยแด็กได้ก็คือ ต้องช่วยแนะนำ และบอกกล่าวอย่างเดียว เพราะถ้าจะใช้วิธีกรห้าม ยังไงก็ไม่ได้ผลแน่นอน เพราะการห้าม ก็เหมือนกับการยุนั่นเอง ควรแนะนำ และพูดให้นักเรียน ตระหนักถึงการเรียน ว่าสำคัญอย่างไร และควรจะแบ่งเวลาในการเรียน และเล่นอย่างไร ไม่ให้มีผลเสีย วิธีนี้ จะได้ผลมากที่สุด